วันอังคารที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2566

โรคความดันโลหิตสูง



 โรคความดันโลหิตสูง

ความดันโลหิตสูงมีโอกาสเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ 3-4 เท่า และโรคหลอดเลือดของสมอง 7 เท่า เมื่อเทียบกับผู้ที่มีระดับความดันโลหิตอยู่ในเกณฑ์ปกติ ความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจเพิ่มขึ้น ร้อยละ 30 สําหรับความดันโลหิตที่เพิ่มขึ้นทุกๆ 10 มม.ปรอท โรคไต โรคหลอดเลือดสมอง ทําให้เกิดอัมพฤกษ์ อัมพาตได้ ความชุกของภาวะความดันโลหิตสูงจะพบได้ในเพศชายมากกว่า เพศหญิงและพบเพิ่มขึ้นตามอายุ โดยพบในเพศชายที่อายุ 25 ปีขึ้นไป และในเพศหญิงอายุ 45 ปีขึ้นไป

ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคความดันโลหิตสูง

1. ภาวะอ้วนและการขาดการออกกําลังกาย น้ําหนักมีความสัมพันธ์กับความดันโลหิต ผู้ที่มีน้ําหนักเพิ่มขึ้นจะมีระดับความดันโลหิตสูงขึ้น คนอ้วนจะมีการคั่งของโซเดียมอยู่ในร่างกายมาก 2. ความเครียด พบว่าความเครียดทําให้ระดับความดันโลหิตเพิ่มขึ้น

3. การบริโภคสารอาหารโซเดียมมากเกินไป มีงานวิจัยจํานวนมากที่พบว่าปริมาณ โซเดียมในอาหารที่บริโภคมีความสัมพันธ์กับระดับความดันโลหิต และการลดการบริโภคโซเดียม สามารถช่วยลดความดันโลหิตได้

4. การบริโภคไขมันอิ่มตัวในปริมาณที่มาก

การป้องกันและลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคความดันโลหิตสูง

1. ลดน้ําหนักลง 10-15% ของน้ําหนัก

2. จํากัดปริมาณแอลกอฮอล์ (วิสกี้ 45 ซีซี ไวน์ 150 ซีซี หรือเบียร์ 2 กระป๋อง) 3. จํากัดโซเดียม 1.5 ถึง 2.5 กรัม/วัน (เกลือ 4 ถึง 6 กรัม) เพิ่มปริมาณกากใยอาหาร ให้มีปริมาณและมีความหลากหลายเพิ่มมากขึ้น โดยแนะนําให้บริโภคอาหารที่อุดมไปด้วยพืช/ผัก/ผลไม้ ลดปริมาณไขมันจากสัตว์

4. ควบคุมระดับไขมันในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน

5. จัดการกับความเครียดที่เหมาะสม ควรใช้เครื่องเทศและสมุนไพรเหล่านี้ในการปรุงรสแทนการใช้เครื่องปรุงรสที่มีโซเดียมสูง เช่น หอม กระเทียม กระชาย ขิง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ใบโหระพา ใบแมงลัก ใบสะระแหน่ รากผักชี พริกไทย ลูกผักชี ยี่หร่า อบเชย ลูกจันทน์ ดอกจันทน์ ลูกกระวาน ใบกระวาน กานพลู เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการศึกษาทางด้านระบาดวิทยาและการศึกษาทดลองหลายการศึกษา ที่พบความสัมพันธ์ระหว่างความดันโลหิตและเกลือแร่ แคลเซียม โพแทสเซียมและแมกนีเซียม โดยพบความสัมพันธ์ทางลบระหว่างความดันโลหิตกับแคลเซียม โพแทสเซียมและแมกนีเซียม การได้รับแคลเซียมสูงขึ้นอาจจะช่วยในการป้องกันภาวะความดันโลหิตสูง การศึกษาทางด้าน ระบาดวิทยาพบความสัมพันธ์ทางลบของโพแทสเซียมกับความดันโลหิต แต่พบผลขัดแย้งกัน ในการทดลองทางคลินิก ถ้าได้รับโซเดียมจํานวนมากควรเพิ่มโพแทสเซียมด้วย เนื่องจากสัดส่วน ของโพแทสเซียม : โซเดียม ที่ทําให้ความดันโลหิตต่ําลง แมกนีเซียมยับยั้งการหดตัวของ กล้ามเนื้อลาย ช่วยขยายหลอดเลือด ซึ่งทําให้ระดับความดันโลหิตเป็นไปอย่างปกติ แต่ความ สัมพันธ์นี้ยังไม่ชัดเจนเพียงพอที่จะสรุปได้

สรุปการป้องกันการเกิดโรคความดันโลหิตสูงคือรักษาน้ําหนักตัวให้คงที่ ลดอาหารเค็ม

อาหารหมักดอง อาหารกระป๋อง อาหารที่แปรรูป รับประทานผักและผลไม้เป็นประจําเพื่อเพิ่ม ปริมาณโพแทสเซียมและใยอาหาร ควรบริโภคไขมันชนิดไม่อิ่มตัวหลายตําแหน่ง ดื่มแอลกอฮอล์ ในปริมาณที่เหมาะสม

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น